เมนู

9-10. โลภโทสปริญฺญาสุตฺตทฺวยวณฺณนา

[9-10] นวมทสเมสุ อปุพฺพํ นตฺถิฯ เทสนาวิลาสวเสน ตถา พุชฺฌนกานํ เวเนยฺยานํ อชฺฌาสยวเสน วา ตถา เทสิตานีติ ทฏฺฐพฺพํฯ

นวมทสมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

ปฐมวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

2. ทุติยวคฺโค

1-3. โมหปริญฺญาทิสุตฺตวณฺณนา

[11-13] ทุติยวคฺเคปิ ปฐมาทีนิ ตีณิ สุตฺตานิ วุตฺตนยาเนว, ตถา เทสนาการณมฺปิ วุตฺตเมวฯ

4. อวิชฺชานีวรณสุตฺตวณฺณนา

[14] จตุตฺเถ – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว’’ติอาทีสุ -กาโร ปฏิเสธตฺโถฯ อหนฺติ ภควา อตฺตานํ นิทฺทิสติฯ อญฺญนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพอวิชฺชานีวรณโต อญฺญํฯ เอกนีวรณมฺปีติ เอกนีวรณธมฺมมฺปิฯ สมนุปสฺสามีติ ทฺเว สมนุปสฺสนา – ทิฏฺฐิสมนุปสฺสนา จ ญาณสมนุปสฺสนา จฯ ตตฺถ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา (อ. นิ. 4.200; ปฏิ. ม. 1.130) อาคตา อยํ ทิฏฺฐิสมนุปสฺสนา นามฯ ‘‘อนิจฺจโต สมนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. 3.35) ปน อาคตา อยํ ญาณสมนุปสฺสนา นามฯ อิธาปิ ญาณสมนุปสฺสนาว อธิปฺเปตาฯ ‘‘สมนุปสฺสามี’’ติ จ ปทสฺส น-กาเรน สมฺพนฺโธฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อหํ, ภิกฺขเว, สพฺพญฺญุตญฺญาณสงฺขาเตน สมนฺตจกฺขุนา สพฺพธมฺเม หตฺถามลกํ วิย โอโลเกนฺโตปิ อญฺญํ เอกนีวรณมฺปิ น สมนุปสฺสามี’’ติฯ

เยน นีวรเณน นิวุตา ปชา ทีฆรตฺตํ สนฺธาวนฺติ สํสรนฺตีติ เยน นีวรณกสภาวตฺตา นีวรเณน ธมฺมสภาวํ ชานิตุํ ปสฺสิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ อทตฺวา ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา ฐาเนน อนฺธกาเรน นิวุตา สตฺตา อนาทิมตสํสาเร อปริมาเณ กปฺเป มหนฺเตสุ เจว ขุทฺทเกสุ จ ภวาทีสุ อปราปรุปฺปตฺติวเสน สพฺพโต ธาวนฺติ เจว สํสรนฺติ, จฯ อารมฺมณนฺตรสงฺกมนวเสน วา สนฺธาวนํ, ภวนฺตรสงฺกมนวเสน สํสรณํฯ กิเลสานํ พลวภาเวน วา สนฺธาวนํ, ทุพฺพลภาเวน สํสรณํฯ ขณิกมรณวเสน วา เอกชาติยํ สนฺธาวนํ, โวหารมรณวเสน อเนกาสุ ชาตีสุ สํสรณํฯ จิตฺตวเสน วา สนฺธาวนํ, ‘‘จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ หิ วุตฺตํ, กมฺมวเสน สํสรณํฯ เอวํ สนฺธาวนสํสรณานํ วิเสโส เวทิตพฺโพฯ

ยถยิทนฺติ ยถา อิทํฯ ย-กาโร ปทสนฺธิกโร, สนฺธิวเสน รสฺสตฺตํฯ อวิชฺชานีวรณนฺติ เอตฺถ ปูเรตุํ อยุตฺตฏฺเฐน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม, อลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถฯ ตํ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชาฯ วิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม, ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชาฯ ขนฺธานํ ราสฏฺฐํ, อายตนานํ อายตนฏฺฐํ, ธาตูนํ สุญฺญฏฺฐํ, อินฺทฺริยานํ อาธิปเตยฺยฏฺฐํ, สจฺจานํ ตถฏฺฐํ ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชาฯ อนฺตวิรหิเต สํสาเร สตฺเต ชวาเปตีติ วา อวิชฺชา, ปรมตฺถโต วา อวิชฺชมาเนสุ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ ปวตฺตติ, วิชฺชมาเนสุ ขนฺธาทีสุ น ชวติ, น ปวตฺตตีติ อวิชฺชาฯ อปิจ จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานญฺจ ธมฺมานํ ฉาทนโตปิ อวิชฺชาฯ อวิชฺชาว นีวรณนฺติ อวิชฺชานีวรณํฯ

อวิชฺชานีวรเณน หิ, ภิกฺขเว, นิวุตา ปชา ทีฆรตฺตํ สนฺธาวนฺติ สํสรนฺตีติ อิทํ ปุริมสฺเสว ทฬฺหีกรณตฺถํ วุตฺตํฯ ปุริมํ วา – ‘‘ยถยิทํ, ภิกฺขเว, อวิชฺชานีวรณ’’นฺติ เอวํ โอปมฺมทสฺสนวเสน วุตฺตํ, อิทํ นีวรณานุภาวทสฺสนวเสนฯ กสฺมา ปเนตฺถ อวิชฺชาว เอวํ วุตฺตา, น อญฺเญ ธมฺมาติ? อาทีนวปฏิจฺฉาทเนน กามจฺฉนฺทาทีนํ วิเสสปฺปจฺจยภาวโตฯ ตถา หิ ตาย ปฏิจฺฉาทิตาทีนเว วิสเย กามจฺฉนฺทาทโย ปวตฺตนฺติฯ

นตฺถญฺโญติ อาทิกา คาถา วุตฺตสฺส อวุตฺตสฺส จ อตฺถสฺส สงฺคณฺหนวเสน ภาสิตาฯ ตตฺถ นิวุตาติ นิวาริตา ปลิคุณฺฐิตา, ปฏิจฺฉาทิตาติ อตฺโถฯ อโหรตฺตนฺติ ทิวา เจว รตฺติญฺจ, สพฺพกาลนฺติ วุตฺตํ โหติฯ

ยถา โมเหน อาวุตาติ เยน ปกาเรน อวิชฺชานีวรณสงฺขาเตน โมเหน อาวุตา ปฏิจฺฉาทิตา สุวิญฺเญยฺยมฺปิ อชานนฺติโย ปชา สํสาเร สํสรนฺติ, ตถารูโป อญฺโญ เอกธมฺโมปิ เอกนีวรณมฺปิ นตฺถีติ โยเชตพฺพํฯ เย จ โมหํ ปหนฺตฺวาน, ตโมขนฺธํ ปทาลยุนฺติ เย ปน อริยสาวกา ปุพฺพภาเค ตทงฺคาทิปฺปหานวเสน, เหฏฺฐิมมคฺเคหิ วา ตํตํมคฺควชฺฌํ โมหํ ปชหิตฺวา อคฺคมคฺเคน วชิรูปมญาเณน โมหสงฺขาตเมว ตโมราสิํ ปทาลยิํสุ, อนวเสสโต สมุจฺฉินฺทิํสุฯ น เต ปุน สํสรนฺตีติ เต อรหนฺโต –

‘‘ขนฺธานญฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;

อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจตี’’ติฯ –

เอวํ วุตฺเต อิมสฺมิํ สํสาเร น สํสรนฺติ น ปริพฺภมนฺติฯ กิํ การณา? เหตุ เตสํ น วิชฺชติ , ยสฺมา สํสารสฺส เหตุ มูลการณํ อวิชฺชา, สา เตสํ น วิชฺชติ, สพฺพโส นตฺถิ สมุจฺฉินฺนตฺตาติฯ

จตุตฺถสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

5. ฑฺตณฺหาสํโยชนสุตฺตวณฺณนา

[15] ปญฺจเม ยสฺส วิชฺชติ, ตํ ปุคฺคลํ ทุกฺเขหิ, กมฺมํ วา วิปาเกหิ, ภวโยนิคติวิญฺญาณฏฺฐิติสตฺตาวาเส วา ภวนฺตราทีหิ สํโยเชตีติ สํโยชนํฯ ตณฺหายนฏฺเฐน ตณฺหา, ตสติ สยํ ปริตสติ, ตสนฺติ วา เอตายาติ ตณฺหาฯ สญฺญุตฺตาติ จกฺขาทีสุ อภินิเวสวตฺถูสุ พทฺธาฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ กามญฺเจตฺถ อวิชฺชายปิ สํโยชนภาโว ตณฺหาย จ นีวรณภาโว อตฺถิเยว, ตถาปิ อวิชฺชาย ปฏิจฺฉาทิตาทีนเวหิ ภเวหิ ตณฺหา สตฺเต สํโยเชตีติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ ปุริมสุตฺเต อวิชฺชา นีวรณภาเวน, อิธ จ ตณฺหา สํโยชนภาเวเนว วุตฺตาฯ กิญฺจ นีวรณสํโยชนปฺปธานสฺส ทสฺสนตฺถํฯ ยถา หิ นีวรณภาเวน อวิชฺชา สํกิเลสธมฺมานํ ปธานภูตา ปุพฺพงฺคมา จ, เอวํ สํโยชนภาเวน เนสํ ตณฺหาติ ตทธีนปฺปธานภาวํ ทสฺเสตุํ สุตฺตทฺวเย เอวเมเต ธมฺมา วุตฺตาฯ อปิจ วิเสเสน อวิชฺชา นิพฺพานสุขํ นิวาเรตีติ ‘‘นีวรณ’’นฺติ วุตฺตา, ตณฺหา สํสารทุกฺเขน สตฺเต สํโยเชตีติ ‘‘สํโยชน’’นฺติฯ

ทสฺสนคมนนฺตรายกรณโต วา วิชฺชาจรณวิปกฺขโต ทฺวยํ ทฺวิธา วุตฺตํฯ วิชฺชาย หิ อุชุวิปจฺจนีกภูตา อวิชฺชา นิพฺพานทสฺสนสฺส อวิปรีตทสฺสนสฺส จ วิเสสโต อนฺตรายกรา, จรณธมฺมานํ อุชุวิปจฺจนีกภูตา ตณฺหา คมนสฺส สมฺมาปฏิปตฺติยา อนฺตรายกราติ; เอวมยํ อวิชฺชาย นิวุโต อนฺธีกโต ตณฺหาย สํวุโต พทฺโธ อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อนฺโธ วิย พทฺโธ มหากนฺตารํ, สํสารกนฺตารํ นาติวตฺตติฯ อนตฺถุปฺปตฺติเหตุทฺวยทสฺสนตฺถมฺปิ ทฺวยํ ทฺวิธา วุตฺตํฯ อวิชฺชาคโต หิ ปุคฺคโล พาลภาเวน อตฺถํ ปริหาเปติ, อนตฺถญฺจ อตฺตโน กโรติ, อกุสโล วิย อาตุโร อสปฺปายกิริยายฯ ชานนฺโตปิ พาโล พาลภาเวน อตฺถํ ปริหาเปติ, อนตฺถญฺจ กโรติ ชานนฺโต วิย โรคี อสปฺปายเสวีฯ มกฺกฏาเลโปปมสุตฺตํ เจตสฺส อตฺถสฺส สาธกํฯ

ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส มูลการณทสฺสนตฺถมฺเปตฺถ ทฺวยํ ทฺวิธา วุตฺตํฯ วิเสเสน หิ สมฺโมหสฺส พลวภาวโต อวิชฺชาเขตฺตํ อตีโต อทฺธา, ปตฺถนาย พลวภาวโต ตณฺหาเขตฺตํ อนาคโต อทฺธาฯ ตถา หิ พาลชโน สมฺโมหพหุโล อตีตมนุโสจติ, ตสฺส อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ สพฺพํ เนตพฺพํฯ ปตฺถนาพหุโล อนาคตํ ปชปฺปติ, ตสฺส ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานนฺติอาทิ สพฺพํ เนตพฺพํฯ เตเนว ตาสํ ปุพฺพนฺตาหรเณน อปรนฺตปฏิสนฺธาเนน จสฺส ยถากฺกมํ มูลการณตา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพนฺติฯ

คาถาสุ ตณฺหาทุติโยติ ตณฺหาสหาโยฯ ตณฺหา หิ นิรุทกกนฺตาเร มรีจิกาย อุทกสญฺญา วิย ปิปาสาภิภูตํ อปฺปฏิการทุกฺขาภิภูตมฺปิ สตฺตํ อสฺสาทสนฺทสฺสนวเสน สหายกิจฺจํ กโรนฺตี ภวาทีสุ อนิพฺพินฺทํ กตฺวา ปริพฺภมาเปติ, ตสฺมา ตณฺหา ปุริสสฺส ‘‘ทุติยา’’ติ วุตฺตาฯ นนุ จ อญฺเญปิ กิเลสาทโย ภวาภินิพฺพตฺติยา ปจฺจยาว? สจฺจเมตํ, น ปน ตถา วิเสสปฺปจฺจโย ยถา ตณฺหาฯ